您现在的位置是:DailyThai > ความบันเทิง
【time 1234】หมดหนทาง!! เอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่ม น่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิม | เดลินิวส์
DailyThai2025-02-12 18:18:42【ความบันเทิง】6人已围观
简介น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำ time 1234
น.ส.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลสำรวจสถานการณ์ด้านหนี้สินกิจการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไตรมาส 4 ปี 67 ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มธุรกิจรายย่อย และรายกลาง พึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบสถาบันการเงินเพิ่มมากขึ้น โดยธุรกิจรายย่อยหันไปพึ่งพาแหล่งเงินจากนายทุนเงินกู้เพิ่มมากขึ้น จาก 1.3% เป็น 7.4%
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2025/02/S__47472644-1280x856.jpg)
ส่วน ธุรกิจขนาดกลาง มีการกู้ยืมเงินทุนจากเพื่อน ญาติพี่น้องเพิ่มขึ้น จาก 16.2% เป็น 18.2% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อมพึ่งพาแหล่งกู้เงินในระบบสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด เพิ่มมากขึ้น จาก 56.1% เป็น 69.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์“เอสเอ็มอี มีภาระหนี้สินมีสัดส่วนใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 65% จาก 65.3% เมื่อพิจารณาตามขนาดธุรกิจ พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจรายย่อย มีสัดส่วนภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 97.1% และ 61.3% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนธุรกิจขนาดย่อมมีภาระหนี้สินลดลงมาอยู่ที่ 71.5%”
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์สำหรับวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปใช้เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พบว่า เอสเอ็มอี นำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการลดลงจาก 91.9% เป็น 82% เนื่องจากเอสเอ็มอี เริ่มมีการนำเงินไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มมากขึ้นจาก 3% เป็น 9.7% และนำเงินไปลงทุนในกิจการเพิ่มขึ้นจาก 5.1% เป็น 8.3% เพื่อขยายกิจการและซ่อมแซมสถานประกอบการ
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์จากผลสำรวจระบุว่า SME เผชิญปัญหาการชำระหนี้มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 จากต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น และเผชิญปัญหาต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงผลกระทบจากการแข่งขันของคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถขายสินค้า/บริการได้ จึงส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ อีกทั้งการเข้าถึงวงเงินสินเชื่อจากแหล่งเงินต่าง ๆ ยังไม่เพียงพอ รวมถึงระยะเวลาสัญญาสินเชื่อที่สั้นเกินไป เกณฑ์การเข้าถึงสินเชื่อที่เข้มงวดมากตลอดช่วงหลังการฟื้นตัวจากโควิด ขั้นตอนการกู้ยืมเงินที่ยุ่งยาก และการขาดความรู้หรือที่ปรึกษาทางการเงิน จึงกลายเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ SME มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์พบว่า SME ที่ไม่มีภาระหนี้สิน ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง เริ่มมีความต้องการกู้ยืมเงินในอนาคตเพิ่มมากขึ้น จากร้อยละ 17.6 เป็นร้อยละ 24.6 และจากร้อยละ 22.2 เป็นร้อยละ 25.0 ตามลำดับ เนื่องจากต้องการนำเงินไปใช้หมุนเวียนในกิจการ และ SME มองว่าปัจจัยด้านกำลังซื้อต่ำที่ทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อลดลง คู่แข่งทางธุรกิจมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสภาพคล่องที่ลดลง เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านการเงินของธุรกิจ เมื่อต้องการแหล่งเงินทุนหรือยื่นกู้สินเชื่อยังเจอกับปัญหาการเข้าถึงสินเชื่อ เช่น เกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด รวมถึงธุรกิจที่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความสามารถในการชำระเงินคืนอีกด้วย
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์แม้ว่าสถานการณ์ภาวะหนี้สินของ SME ในไตรมาสที่ 4 เริ่มมีทิศทางทรงตัว SME ต้องการนำเงินกู้ที่ได้รับไปชำระหนี้สินเดิมเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยอื่น ๆ ภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อต่ำ ราคาสินค้า บริการที่อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถขายสินค้า บริการได้นั้น ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นในการเพิ่มการใช้จ่ายหรือกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อ เช่น การเพิ่มความยืดหยุ่นของหลักเกณฑ์ในการยื่นขอสินเชื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกสาขาธุรกิจ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการไปพึ่งพาแหล่งกู้ยืมเงินที่ไม่เหมาะสมหรือผิดประเภทเพิ่มขึ้น
หมดหนทางเอสเอ็มอีรายย่อยหันพึ่งกู้หนี้นอกระบบเพิ่มน่าห่วงใช้หมุนจ่ายของเดิมเดลินิวส์很赞哦!(851)
相关文章
- Stranger Things ซีซัน 5 อาจยังไม่ได้ฉายในปี 2025 แม้ถ่ายทำเสร็จแล้วก็ตาม
- กำลังใจล้นหลาม โอปอล สุชาตา กับภาพหลังเวที Miss Universe 2024
- ทรัมป์เสนอชื่ออดีตผู้อำนวยการข่าวกรอง ให้เป็นหัวหน้าซีไอเอคนใหม่ | เดลินิวส์
- กาแฟไม่ต้อง"ตุลย์ ณัฐนันท์"ปลุกความแซ่บให้โลกรู้ นุ่งบิกินีตัวจิ๋วสาดเซ็กซี่แบบซู่ซ่า! | เดลินิวส์
- เกาะประเด็นการเมืองวันนี้ จับตา 'พรรคประชาชนสร้างลำพูนโมเดล' | เดลินิวส์
- นักแบดมินตันเยาวชนไทย ฟอร์มแจ่มคว้า 3 แชมป์ ศึกโยเน็กซ์ สิงห์ บีทีวาย จูเนียร์ 2024 | เดลินิวส์
- "TaitosmitH Feat.Rasmee Isan Soul"ส่งเพลง"วัยหนุ่ม"ประกอบหนังสะกิดใจแฟนๆ | เดลินิวส์
- xูไม่เชื่อมึx! ชาวเน็ตแห่ฟาด "ฟิล์ม รัฐภูมิ"ปมออกตัวความจริงมีเพียงหนึ่งจะปกป้องตัวเขาเอง! | เดลินิวส์
- "แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เ ร า" ที่ไม่ใช่หนัง GL | เดลินิวส์
- ไบเดนไฟเขียว ให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลของสหรัฐโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย | เดลินิวส์
热门文章
- ประมวลภาพ"พีท วสุธร"ฉลองครบรอบอายุ 28 ปี ชวนแฟนๆทำบุญครั้งใหญ่ที่วัดภูเขาทอง | เดลินิวส์
- TV & Entertainment – Page 623 of 623 – THE STANDARD
- xูไม่เชื่อมึx! ชาวเน็ตแห่ฟาด "ฟิล์ม รัฐภูมิ"ปมออกตัวความจริงมีเพียงหนึ่งจะปกป้องตัวเขาเอง! | เดลินิวส์
- วินาทีบีบหัวใจ! โอปอล สุชาตา ผ่านเข้าสู่รอบ 5 คนสุดท้ายบนเวที Miss Universe
站长推荐
'เตย-ปั๊บ โปเตโต้' กอดกันกลม เฉลยเพศลูกน้อย วอนแฟนๆฝากเอ็นดูเจ้าเด็กในท้อง! | เดลินิวส์
จนมุม 'เส้นผม' ไขคดีฆ่าแม่ยายอัยการ 'กมลวรรณ' รับทำคนเดียว-เล่านาทีสังหาร | เดลินิวส์
"อาย กัญญาลักษณ์"อวดเซ็กซี่ 2 ลุคนี้มองจากไหนบนโลกนี้ก็ต้องยกธงขาวสยบเพราะแซ่บสุดๆ | เดลินิวส์
ไหวไหม! 'ช้างศึก'ชุดนี้ ล่าแชมป์อาเซียนคัพ | เดลินิวส์
ช่อง 3 ออกแถลงการณ์เตือนพฤติกรรมกลุ่มบุคคลที่ก้าวก่ายเวลาส่วนตัวของ หลิงหลิง คอง
สังคมโลก : เยื่อใยยังอยู่ | เดลินิวส์
'พริษฐ์-กัสสะ'ดวลเพลย์ออฟแชมป์สิงห์จูเนียร์สนาม5 | เดลินิวส์
'เมย์ไทย' เตรียมรอเจอ 'พัคจีฮุน'กับแฟนมีตติ้งที่ไทย ปักหมุดล็อกคิว 29 ธ.ค.นี้ | เดลินิวส์